แกรี่ เนวิลล์ ลงเล่นนัดที่ 500 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อหน้าแฟนบอลจำนวน 69,070 คนในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด สร้างสถิติใหม่สำหรับจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดในพรีเมียร์ชิพ
กัปตันทีมแกรี่ ได้รับการปรบมือยกย่องความสำเร็จก่อนเริ่มเกมซึ่งจบลงด้วยชัยชนะโดยผลงานการเล่นอันยอดเยี่ยมของเพื่อนร่วมทีมที่ลงเล่นมากกว่าเขาคือ ไรอัน กิ๊กส์ (664 นัด)
กองกลางประสบการณ์สูงทำได้ 1 ประตู ที่จริงแล้วน่าจะเป็นทำได้ 2 ประตู เนื่องจากประตูแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเกมผ่านไปได้เพียง 3 นาทีถูกบันทึกว่าเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของไมค์ เทย์เลอร์ ผู้รักษาประตูของเบอร์มิงแฮม โดยประตูนี้มาจากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาอันเฉียบคมของกิ๊กส์ ที่ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายข้ามกำแพงไปโดนปลายมือซ้ายของเทย์เลอร์ แล้วชนเสามากระทบด้านหลังศีรษะของเทย์เลอร์ กระดอนเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 ในนาทีที่ 3
ไม่มีข้อสงสัยเรื่องผู้ทำประตูอีกสำหรับประตูที่ 2 กิ๊กส์ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วไหลเข้ากลางให้กับเวย์น รูนี่ย์ ทำชิ่งแทงทะลุช่องคืนไปให้กับกิ๊กส์ ที่วิ่งสอดทะลุแผงกองหลังของเบอร์มิงแฮม หลุดเดี่ยวไปดวลตัวต่อตัวกับเทย์เลอร์ ก่อนที่กิ๊กส์ จะซัดด้วยเท้าซ้ายเสียบมุมเสาไกลเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 15
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้กองเชียร์ของทั้ง 2 ทีมอาจจะคิดไปถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้น แฟนบอลเจ้าถิ่นสงสัยว่าปิศาจแดง อาจจะโหมบุกกระหน่ำแต่สิ้นเปลืองโอกาสไปหมดอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในนัดที่พบกับนิวคาสเซิล ในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ส่วนแฟนบอลทีมเยือนก็เริ่มกังวลว่าทีมของพวกเขาจะโดนถล่มอีกครั้งเหมือนกับเมื่อ 5 วันก่อนหน้านี้ที่โดนลิเวอร์พูล ถล่มไป 7-0 ในศึกเอฟเอ คัพ
คีแรน ริชาร์ดสัน ต้องเดินกระเผลกออกจากสนามไปหลังจากถูกยิริ ยาโรซิค เข้าสกัดที่ข้อเท้าอย่างหนักหน่วงโดยยาโรซิค ถูกไมค์ ดีน ผู้ตัดสินชูใบเหลืองให้ไปด้วย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียหายกว่าที่ต้องเปลี่ยนตัวริชาร์ดสัน ซึ่งได้รับอาการบาดเจ็บในจังหวะดังกล่าวโดยให้ปาร์ค จีซุง ลงสนามแทนในนาทีที่ 39
มาร์ติน ลัตก้า (ทำฟาวล์หลุยส์ ซาฮา) และเจอร์เมน เพนแนนท์ (ทำฟาวล์เนมานย่า วิดิช) ก็ได้รับใบเหลืองไปอีกคนละใบในครึ่งเวลาแรก ซึ่งลูกทีมของสตีฟ บรูซ พยายามต่อสู้เพื่อทวงประตูคืนให้ได้ ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงโดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงนำอยู่ 2-0
เข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นกันได้ “น่าผิดหวังมาก” ตามที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้สัมภาษณ์หลังเกม เบอร์มิงแฮม ต่อสู้อย่างไม่ลดละเพื่อจะทำประตูทวงคืนให้ได้แต่ก็ไม่เป็นผล เอมิล เฮสกีย์ ชูมือร้องขอลูกจุดโทษหลังจากล้มลงในกรอบเขตโทษ หลังจากนั้นก็ได้โอกาสยิงโล่งๆ ในกรอบเขตโทษแต่ก็ซัดเหินข้ามคานไปไกล
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูที่ 3 จนได้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เตะบอลข้ามกึ่งกลางสนามมาลงที่หัวของโรนัลโด้ โหม่งชงขึ้นหน้าไปให้กับรูนี่ย์ เกี่ยวบอลด้วยเท้าขวาแล้วกระชากบอลเข้าหากรอบเขตโทษก่อนที่จะบรรจงยิงด้วยเท้าขวาสวนตัวเทย์เลอร์ เสียบโคนเสาไกลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 83
หลังจากนั้น ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงโชว์ซูเปอร์เซฟถึง 2 ครั้ง เมื่อเบอร์มิงแฮม ได้โอกาสยิงจ่อๆ ในกรอบเขตโทษจากลูกเตะมุม แต่ผู้รักษาประตูทีมชาติฮอลแลนด์ยังไม่ยอมพลาด
กองเชียร์เจ้าถิ่นส่งเสียงเชียร์และปรบมือกึกก้องเมื่อเสียงของโฆษกสนามประกาศว่าจำนวนผู้เข้าชมในนัดนี้คือ 69,070 คนเป็นสถิติจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในรอบ 86 ปี การเปิดที่นั่งเพิ่มเติม 2,000 ที่นั่งในอัฒจันทร์ใหม่เอี่ยมฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือทำให้สโมสรสร้างสถิติจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดใหม่ในพรีเมียร์ชิพ โดยลบสถิติจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดเดิม 67,989 คนเมื่อ 13 เดือนที่แล้วในเกมที่พบกับปอร์ทสมัธ
อย่างไรก็ตาม สถิติจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดในทุกรายการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็น 70,504 คนในเกมดิวิชั่นหนึ่ง (เดิม) ที่พบกับแอสตัน วิลล่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 1920 แต่สถิตินี้จะถูกทำลายลงอย่างแน่นอนก่อนสิ้นสุดฤดูกาลนี้เมื่อที่นั่งเพิ่มเติมในอัฒจันทร์ใหม่นี้ต่อเติมครบถ้วน
จบการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไปได้อย่างสบาย 3-0 ทำให้กลับขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ชิพอีกครั้งโดยมี 66 คะแนน ตามหลังเชลซี 12 คะแนน แต่ลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด โดยเกมตกค้างที่จะพบกับเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด จะมีขึ้นในวันพุธที่ 29 เมษายน (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
แกรี่ เนวิลล์ 2
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
เนมานย่า วิดิช 15
ไรอัน กิ๊กส์ 11 ( น. 15)
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 83)
หลุยส์ ซาฮา 9
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
ปาทริซ เอวร่า 3
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 น. 77 ไรอัน กิ๊กส์ 11
ปาร์ค จีซุง 13 น. 39 คีแรน ริชาร์ดสัน 23
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 น. 73 หลุยส์ ซาฮา 9
เบอร์มิงแฮม ซิตี้
ไมค์ เทย์เลอร์ 1 ( ทำเข้าประตูตัวเอง น. 3)
เคนนี่ คันนิ่งแฮม 4
มาร์ติน ลัตก้า 8 ( น. 25)
มาริโอ เมลช็อต 29
สตีเฟ่น คลีเมนซ์ 25
ยิริ ยาโรซิค 14 ( น. 36)
เดเมี่ยน จอห์นสัน 22
สแตน ลาซาริดิส 11
เจอร์เมน เพนแนนท์ 7 ( น. 45)
ดัดลีย์ แคมป์เบลล์ 28
เอมิล เฮสกีย์ 16
สำรอง
นิโก้ แวเซ่น 18
อเล็กซ์ บรูซ 24 น. 87 สแตน ลาซาริดิส 11
โอลิเวียร์ เทบิลี่ 26 น. 82 มาริโอ เมลช็อต 29
นีล คิลเคนนี่ 15 น. 87 เอมิล เฮสกีย์ 16
มิเกล ฟอร์สเซลล์ 9
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 3, ยิงตรงกรอบ 3, ยิงหลุดกรอบ 3, โดนบล็อค 2, เตะมุม 2, ฟาวล์ 14, ล้ำหน้า 4, การครองบอล 52.8%
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ยิงตรงกรอบ 3, ยิงหลุดกรอบ 2, โดนบล็อค 2, เตะมุม 9, ฟาวล์ 12, ใบเหลือง 3, การครองบอล 47.2%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 8, แกรี่ เนวิลล์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 8, มิเกล ซิลแวสตร์ 6, จอห์น โอเชีย 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8, ไรอัน กิ๊กส์ 9, คีแรน ริชาร์ดสัน 5, เวย์น รูนี่ย์ 8, หลุยส์ ซาฮา 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (สำรอง) 5, รุด ฟาน นิสเตลรอย (สำรอง) 5, ปาร์ค จีซุง (สำรอง) 6
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไมค์ เทย์เลอร์ 6, มาริโอ เมลช็อต 6, เคนนี่ คันนิ่งแฮม 4, มาร์ติน ลัตก้า 5, สแตน ลาซาริดิช 5, ยิริ ยาโรซิค 7, สตีเฟ่น คลีเมนซ์ 5, เดเมี่ยน จอห์นสัน 6, เจอร์เมน เพนแนนท์ 6, เอมิล เฮสกีย์ 7, ดัดลีย์ แคมป์เบลล์ 7, อเล็กซ์ บรูซ (สำรอง) 5, โอลิเวียร์ เทบิลี่ (สำรอง) 5, นีล คิลเคนนี่ (สำรอง) 5
Por