ไรอัน กิ๊กส์ กลับมาสู่ลู่วิ่งอีกครั้ง

แม้ว่าเขาจะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิพ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วถึง 8 ครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความกระหายในชัยชนะของเขาจะลดน้อยลง ในขณะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ลังเลใจอยู่นานกับการต่อสัญญากับทีม คล้ายๆ นักเตะคนหนึ่งของทีมที่พบกับสถานการณ์ลังเลใจเช่นเดียวกันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
เมื่อมีหลายสโมสรชั้นนำในอิตาลีให้ความสนใจในตัว ไรอัน กิ๊กส์ และคนบางกลุ่มก็เห็นว่าเขาเหมาะสมกับที่นั่นมากกว่าโอลด์ แทรฟฟอร์ด บางทีพวกเขาอาจจะคิดถูก แต่ที่จริงแล้วพวกเขาคิดผิดถนัด เมื่อดูแต่ละนัดของ ไรอัน กิ๊กส์ ในตอนนั้น คุณอาจเกิดคำถามว่า เขาจะตกลงต่อสัญญากับสโมสรหรือเปล่า แต่เขาไม่ใช่นักเตะประเภทจับฉ่าย เปลี่ยนใจง่าย เขาคือคนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรรยายถึงความรู้สึกที่พบเห็นในครั้งแรกที่เห็นเขาเล่นในสนาม ในฐานะนักเตะหนุ่มของ สวินตัน ว่า “เขาเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติและสบายๆ เหมือนสุนัขวิ่งไล่งับกระดาษสีเงินที่ปลิวไปตามลม” ความสมดุลที่พระเจ้ามอบให้กับเขา รวมทั้งความเป็นนักกีฬาของเขาในตอนนี้ สะกดคนดูได้พอๆ กับเมื่อ 13 ปีที่แล้วที่เขาเริ่มแสดงให้เห็นใน พรีเมียร์ชิพ

มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการไปว่าปีกพ่อมด เด็กหนุ่มที่ได้รับการ์ดวาเลนไทน์ กว่า 6000 การ์ดต่อปี กำลังจะอายุครบ 32 ปี ในเดือนพฤศจิกายน นี้แล้ว เขาหัวเราะเมื่อนึกถึงตัวเอง แต่ก็กล่าวว่า “มีหลายคนเคยพูดว่านักเตะจะถึงจุดสูงสุดในอาชีพเมื่ออายุระหว่าง 27-30 ไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนี้ช่วงเวลามันเพิ่มมากขึ้นแล้ว ต้องเป็น 28-32 หรือ 33 ต่างหากล่ะ”
“มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเล่นยังไง ทั้ง เท็ดดี้ เชอริงแฮม, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และจิอันฟรังโก้ โซล่า ต่างก็ยังเล่นได้ดีทั้งๆ ที่อายุก็ 30 กว่าๆ แล้ว” และคนเหล่านี้ก็เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า แต่สำหรับ กิ๊กส์ แล้วเขาชื่นชอบในตัว จอห์น บาร์นส มากกว่า ปีกที่ผันตัวเองมาเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ “ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว” กิ๊กส์ กล่าว “เขาสามารถเปลี่ยนไปเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ ตัวกลางและพัฒนาทักษะการผ่านบอลรวมทั้งการอ่านเกมของเขาขึ้นอีกด้วย คุณต้องปรับตัวอยู่เสมอเมื่อคุณแก่ตัวลง”
แม้ว่า กิ๊กส์ จะมีรูปร่างที่พริ้วกว่า บาร์นส แต่พวกเขาก็มีหลายสิ่งที่คล้ายๆ กัน เช่น ทั้งสองคนได้ยิงประตูที่น่าจดจำสำหรับแฟนบอล เมื่อ บาร์นส ทำให้กับ มาราคาน่า ในการพบกับ บราซิล ส่วน กิ๊กส์ ทำได้ในนัดที่พบกับ อาร์เซนอล ในศึกเอฟเอ คัพรอบ semi- final ที่สนามวิลล่า พาร์ค ในปีที่ปีศาจแดงได้ 3 แชมป์

แต่ความแตกต่างก็คือ ประตูของ กิ๊กส์ เกิดจากการสร้างสรรค์ประตูที่สวยงามจากการใช้ร่างกายของเขาล้วนๆ เขาคว้าแชมป์ลีก 8 ครั้ง เท่ากับ ฟิล นีล, อลัน แฮนเซ่น และเคนนี่ ดัลกลิช แชมป์เอฟเอ คัพ 4 ครั้ง ลีกคัพ 1 ครั้งและ ยูโรเปี้ยนคัพ 1 ครั้ง เพียง 4 ครั้งเท่านั้นที่เขาจบฤดูกาลโดยไม่มีเหรียญรางวัลติดมือ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าช่วงเวลาในการพักผ่อนอย่างสงบของเขาริมสระน้ำในโปรตุเกสของซัมเมอร์ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความคิดที่ต้องการพัฒนาตัวเองและทีมในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

“เราพลาดเก็บแต้ม 14 แต้มในการพบกับทีมอันดับท้ายตาราง 6 ทีม ลองนึกถึงนัดที่พบกับ คริสตัล พาเลซ เราทำได้แค่เสมอ 0 – 0 ทั้งๆ ที่พวกเขาเหลือเพียง 10 คน เราเคยพูดอยู่เสมอว่า เราจะต้องทำประตูได้แน่ ไม่ต้องห่วงหรอกเราจะทำได้ และเราก็น่าจะทำได้นะ เราควรจะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ตื่นตระหนก รักษารูปแบบการเล่นฟุตบอลของเราต่อไป มันเป็นเกมที่ต้องรักษาสภาพจิตใจด้วยในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งเชลซีสามารถทำได้ในปีที่แล้ว และอาร์เซน่อล ก็ทำได้ใน 2 ปีก่อน ส่วนเราเองก็เคยทำได้ก่อนหน้านั้น”
“ความมุ่งมั่นอยู่เฉพาะที่การทำประตู การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง การคว้าโอกาสไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราพลาดในปีที่ผ่านมาเพราะเรามีกองหลังที่ดีอยู่แล้ว เราขาดรุด อยู่ช่วงหนึ่ง ในฤดูกาลก่อนหน้านี้เราต่างเคยสร้างสิ่งที่น่าภูมิใจมากมาย ทั้ง พอล สโคลส์, รอย คีน, เดวิด เบ็คแฮม และผมเอง แต่ในปีที่แล้วผม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ สโคลซี่ น่าจะยิงประตูและสร้างสรรค์เกมได้มากกว่านี้”

“แต่นั่นแหละคือสิ่งที่จะเป็นแรงจูงใจให้ผม ฤดูกาลที่เราไม่ได้อะไรกลับมาเลย มันเป็นความรู้สึกที่น่าผิดหวังมากเมื่อคุณเคยมีอะไรติดไม้ติดมือกลับมาตลอด มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆ นะที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้เพียงอันดับ 2 ในช่วง 7-8 เกมสุดท้าย แต่นั่นก็ทำให้เรารู้สึกอยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น นักเตะก็ต้องการที่จะได้แชมป์ พรีเมียร์ชิพ กลับคืนมา”
เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อฟอร์มการเล่นของตัวเองในฤดูกาลที่ผ่านมา กิ๊กส์ ก็กล่าวว่า “มันดีๆ หยุดๆ ผมเริ่มต้นค่อนข้างดี แต่แล้วฟอร์มก็แย่ลง จนกระทั่งในช่วงคริสต์มาสผมก็รู้สึกว่าเล่นได้ดีที่สุด ตลอดช่วง 10-12 เกมเลยทีเดียว เมื่อก่อนผมเคยเล่นดีติดๆ กัน 2-3 เกมเท่านั้นแล้วก็เล่นได้น่าผิดหวังในเกมถัดมา อย่างในปีที่ผ่านมาผมก็เล่นได้ดีติดๆ กันแล้วพอถึงเกมที่พบกับสเปอร์ส ผมก็ได้รับบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าและต้องพักไป 2-3 สัปดาห์”
การเข้ามาร่วมทีมของโรนัลโด้ ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับเฟอร์กูสัน มากขึ้น และบางครั้งก็ทำให้ไม่มีชื่อกิ๊กส์ ใน 11 ตัวจริง “ถ้าผู้จัดการไม่ได้ส่งผมลง ผมก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและพยายามพิสูจน์ว่าเขาคิดผิด”
แต่คำถามใหญ่ในตอนนี้ก็คือ ในฤดูกาลที่จะถึงนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกหรือไม่ เมื่อ กิ๊กส์ มองกลับไปรอบๆ ห้องแต่งตัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาได้พบกับ สตีฟ บรูซ, แกรี่ พัลลิสเตอร์, เอริค คันโตน่า และ รอย คีน ซึ่งสามารถช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับทีมได้ แต่ตอนนี้อิทธิพลของคีน ที่มีต่อทีมก็ลดน้อยลง ส่วนคนอื่นๆ ก็จากไปหมดแล้ว ผู้นำของทีมในตอนนี้จะเป็นใครระหว่างนักเตะเก่าหรือนักเตะใหม่

ไม่ว่าจะเป็น สโคลส์ หรือ กิ๊กส์ เองก็ไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงเวลาที่ผ่านมาดูเหมือน กิ๊กส์ จะเป็นเหมือนผู้สังเกตการณ์มากกว่าจะเป็นผู้นำของทีม แต่เมื่อดูอย่าง บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และจอร์จ เบสต์ ที่มีบุคลิกคล้ายคลึงกัน พวกเขาก็สามารถสร้างอดีตที่น่าจดจำให้กับทีมได้ และในตอนนี้ทีมก็แข็งแกร่งขึ้นจากความคล่องแคล่ว ว่องไวของนักเตะหนุ่มอย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ โรนัลโด้ แต่ไม่ว่า กิ๊กส์ จะเหลือเวลาในอาชีพนี้อีกนานเท่าไหร่ คุณก็จะเห็นว่าเขาสามารถมอบมรดกตกทอดที่เขาได้รับมา รวมทั้งประสบการณ์ให้กับนักเตะรุ่นใหม่ได้ ในฐานะนักเตะรุ่นพี่

“เมื่อผมเห็นนักเตะหนุ่มๆ อย่าง โรนัลโด้ และ รูนี่ย์ ผมก็คิดว่าผมเคยเป็นอย่างพวกเขา และบางทีพวกเขาก็ช่วยจุดประกายความคิดให้คุณนะ พวกเขามีอิสระ และไม่สนใจว่าจะพลาดการครองบอล เมื่อนึกถึงเมื่อ 10 ปีก่อนผมวิ่งรอบสนามขึ้น ลง อยู่ที่ปีก แต่ตอนนี้ผมกลับทำไม่ได้แล้ว แต่ผมก็หวังว่าผมจะเล่นได้ดีขึ้น ผมเคยลากบอลผ่านกองหลังได้โดยไม่กลัวสิ่งใด แต่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะรักษาบอลไว้ให้ได้ เรียนรู้วิธีการผ่านบอลและการยิงประตูมากขึ้น”

“ผมเคยตั้งเป้าไว้นะว่าอยากทำนู่น อยากทำนี่ ซึ่งมันอันตราย และอาจทำให้คุณบาดเจ็บได้ ตอนนี้ผมก็ไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว นั่นก็เกิดจากประสบการณ์ที่พบมานี่ล่ะ”
ในฤดูกาลที่ผ่านมากำลังใจของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หดหายลงไป ส่วนหนึ่งก็เพราะความมั่งคั่งที่เพิ่มมากขึ้นของเชลซี จากการที่พวกเขาเปิดฤดูกาลด้วยการพ่ายแพ้ต่อทีมของ มูรินโญ่ ทำให้นักเตะเสียขวัญและกำลังใจมากกว่าที่เซอร์ อเล็กซ์ คาดไว้ ในตอนนี้ กิ๊กส์ กล่าวว่า “มันจะเป็นบททดสอบของจริงแล้ว เมื่อเชลซี เป็นแชมป์ และพวกเขาไม่ได้เล่นในฐานะเชลซี เท่านั้น แต่เล่นในฐานะแชมป์และมันก็อาจจะยากขึ้นที่จะเอาชนะพวกเขา หากพวกเขาวางแผนมาอย่างดีเพื่อป้องกันแชมป์ ทุกทีมต้องการเอาชนะแชมป์ ซึ่งคุณต้องตั้งใจจริงๆ ดูอย่างปีที่แล้วเชลซี ก็ไม่จำเป็นต้องเล่นได้ดีกว่าเรา เพียงแต่พวกเขาเล่นได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเราต่างหาก”
การที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมามีความมุ่งมั่นอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่หลายๆ ทีมต้องระวังตัวไว้บ้างล่ะ
Opal

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

เซาธ์เกตยันชัดเชื่อมั่น'เฮนโด้'-แม็กไกวร์

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษยืนยันว่าตนเองจะเลือกใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ต่อไป แม้นักเตะโดนแฟนบอลชาติตัวเองโห่ใส่ สิงโตคำราม มีคิวเปิดสนาม เวมบลีย์ ดวลกับทีมชาติอิตาลี ในศึก ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี คืนวันอังคารนี้ โดยสถานการณ์ล่าสุด ทรี ไลออนส์ มี 13 คะแนน ส่วน อัซซูรี่ มี…

เทนฮากเผย'แรช'ขอโทษโผล่ปาร์ตี้หลังผีพ่ายเรือยับ

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผย มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ขอโทษแล้วในเรื่องปาร์ตี้หลังจบเกมดาร์บี้แมตช์ที่พ่ายยับต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แรชฟอร์ด ตกเป็นที่วิจารณ์หลังยังมีอารมณ์ไปปาร์ตี้ในไนท์คลับกลางเมืองแมนเชสเตอร์ คืนวันเดียวกับที่ “ปีศาจแดง” เพิ่งพ่ายยับคา โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันอาทิตย์ที่…

ปราจีนซิตี้โพสต์หลังแข้งลูกครึ่งโดนเปาเหยียดผิว

หลังจากที่ อับดุลกอดีรี ฮามิต กองหน้าลูกครึ่งไทย-กาน่า ของปราจีนบุรี ซิตี้ ได้โพสต์ว่าถูกผู้ตัดสินที่ 1 เหยียดผิวใส่ โดยเจ้าตัวโพสต์ว่า “ผมพูดไทยได้นะครับจาร ด่าซะชัดเลย #ไอดำมึงไหวก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อไม่ต้องนอนหรือมึงจะเอาแพทย์ *คำพูดจากผู้ตัดสินที่1 ผมพูดจากใจนะ ใครจะเรียกไรผมดำผมไม่เคยโกรธอะไรเลย แต่นี่เป็นผู้ตัดสิน ควรมีคำพูดที่ดีกว่านี่นะครับ เรียกผมไอ มืดก็ได้  ล่าสุดทางสโมสรออกมาปกป้องนักเตะโดยเผยว่า “การดูถูก ดูหมิ่น ในเชื้อชาติ ศาสนา หรือชาติพันธุ์ ไม่ควรเกิดขึ้นกับ…

เจ้าของพาเลซโต้กระแสฟรีดแมนไปนั่งผอ.กีฬาผี

สตีฟ แพริช ปธ.สโมสร คริสตัล พาเลซ ปฏิเสธกระแสเชื่อมโยงที่ว่า ดูกี้ ฟรีดแมน ผู้อำนวยการกีฬาคนเก่งของพวกเขาจะสละตำแหน่งไปอยู่องค์กรใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด รายงานจาก สปอร์ต เมล ว่า เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ เตรียมเข้ามาปรับโครงสร้างบริหารของ ปีศาจแดง ทันทีที่มีการประกาศเรื่องซื้อหุ้น 25% ซึ่งคาดว่าจะเรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า  ช่วงที่ผ่านมานักยุทธศาสตร์ฟุตบอลหลายท่านอยู่ในชอร์ตลิสต์ นอกจาก ฟรีดแมน ก็เช่น…

เฟอร์กูสันยกระดับค่าจ้างอยู่แถวหน้าไบรท์ตัน

อีแวน เฟอร์กูสัน กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติไอร์แลนด์ กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงระดับแถวหน้าของสโมสร หลังจากต่อสัญญาใหม่ ฟุตบอล อินไซเดอร์ รายงานว่า ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ประสบความสำเร็จในการรั้งตัว เฟอร์กูสัน ให้มีสัญญาอยู่ในถิ่นเอเม็กซ์ยาวไปจนถึงปี 2029 แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการจ่ายค่าจ้างสูงระดับนักเตะแถวหน้าของสโมสร ทั้งที่เพิ่งอายุ 19 ปี เฟอร์กูสัน ต่อสัญญากับ ไบรท์ตัน ไปเมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา ทำให้ เดอะ ซีกัลล์ส…

ชาบียืนยัน'แทร์ชเตเก้น'ยังไม่พร้อมลงเฝ้าเสา

มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ยังไม่พร้อมลงเฝ้าเสาในเกมรับมือ แอตเลติโก มาดริด วันอาทิตย์นี้จากการยืนยันของเทรนเนอร์ทัพอาซูลกราน่า ชาบี เอร์นานเดซ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ยืนยันว่า มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ยังไม่พร้อมหวนคืนสนามในเกมรับมือ แอตเลติโก มาดริด บนเวทีลีกาวันอาทิตย์นี้ เนื่องจากนายทวารวัย 31 ปียังไม่ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ ตามรายงานจาก เดียรีโอ สปอร์ต เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แทร์…